ข้าวยีสต์แดงทำอะไร?
ข้าวยีสต์แดงคืออะไร
ข้าวยีสต์แดงเป็นส่วนผสมที่ใช้ในการปรุงอาหารเอเชียและยาจีนโบราณ ข้าวซึ่งผลิตโดยใช้ราเฉพาะสายพันธุ์ (รายได้เล็กน้อย อดทนกับเรา…) สามารถพบได้ในรูปแบบผงหรือรับประทานเป็นอาหารเสริม และรายการที่น่าประทับใจของการกล่าวอ้างด้านสุขภาพได้สร้างแรงบันดาลใจในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในเชิงลึก – เชื่อกันว่า ลดคอเลสเตอรอล และลดการอักเสบ การวิจัยยังเปิดเผยว่าส่วนผสมดังกล่าวอาจมีคุณสมบัติต้านมะเร็ง และสามารถปรับปรุงระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลินได้อีกด้วย
มันทำงานอย่างไร?
ประกอบด้วย monacolin K ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์เดียวกันที่มีอยู่ในยาลดคอเลสเตอรอล lovastatin ด้วยเหตุผลนี้ ข้าวยีสต์แดงอาจเป็นวิธีที่คุ้มค่ากว่าในการรักษาคอเลสเตอรอลสูง โดยมีผลข้างเคียงน้อยกว่ายาที่ต้องสั่งโดยแพทย์ อย่างไรก็ตาม การศึกษาบางชิ้นแนะนำว่าโปรไฟล์ด้านความปลอดภัยคล้ายกับของสแตตินสังเคราะห์ ประกอบด้วยสเตอรอล ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องฤทธิ์ลดคอเลสเตอรอล และกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ซึ่งเชื่อว่าช่วยลดน้ำหนัก ลดความเสี่ยง โรคหัวใจ และลดการอักเสบได้อีกด้วย
เชื่อกันว่าข้าวยีสต์แดงช่วยรักษาหรือลดความเสี่ยงของโรคเมตาบอลิซึม (การรวมกันของ เบาหวาน ความดันโลหิตสูงและโรคอ้วน) โดยการรักษาปัจจัยเสี่ยงบางประการที่เกี่ยวข้อง คุณลักษณะหนึ่งของภาวะนี้คือภาวะดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งร่างกายไม่ได้ใช้อินซูลินอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดระดับน้ำตาลกลูโคส การศึกษาขนาดเล็กระบุว่าการรับประทานสามารถลดความต้านทานต่ออินซูลิน ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
มีหลักฐานอะไรบ้าง?
ในช่วงสองสามทศวรรษที่ผ่านมา การศึกษาจำนวนมากที่ศึกษาถึงประโยชน์ต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจากข้าวยีสต์แดงมีผลที่น่าพึงพอใจ NS 2017 ตรวจสอบ พบว่า ตรงข้าม 10 การทดลองมีผลดีต่อการลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี อย่างไรก็ตาม, จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อตรวจสอบผลกระทบระยะยาว. นอกจากนี้ ปริมาณของสารออกฤทธิ์หลักคือ monacolin K อาจแตกต่างกันไปตามผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ดังนั้นเราจึงไม่สามารถสรุปได้ว่าประโยชน์ต่อสุขภาพที่สังเกตได้จากการวิจัยที่มีอยู่จะแปลโดยตรงไปยังผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์
คอเลสเตอรอล
ในการศึกษาหนึ่งครั้ง 50 ผู้ป่วยที่มีอายุระหว่าง 23 และ 65 ได้รับทุกวัน 600 ปริมาณมิลลิกรัมของข้าวยีสต์แดงหรือยาหลอก เป็นเวลาแปดสัปดาห์ เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการรักษา ผู้ป่วยที่ได้รับข้าวยีสต์แดงพบว่าระดับคอเลสเตอรอลไลโปโปรตีนความหนาแน่นต่ำ (ไม่ดี) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม แม้ว่านี่จะเป็นการศึกษาขนาดเล็ก แต่การศึกษาเพิ่มเติมและการทบทวนได้พิจารณาถึงผลในการลดคอเลสเตอรอลที่คล้ายคลึงกัน แม้ว่าจะมีระดับที่ค่อนข้างเจียมเนื้อเจียมตัวก็ตาม จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม
ความต้านทานต่ออินซูลิน
NS 2012 การศึกษาตรวจสอบผลกระทบของการใช้ข้าวยีสต์แดงควบคู่ไปกับสารเคมีที่ได้จากธรรมชาติอื่นๆ ในการศึกษาแบบ double-blind ที่ควบคุมด้วยยาหลอก ผู้เข้าร่วมที่มีการเผาผลาญ ซินโดรมได้รับสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่เรียกว่าเบอร์เบอรีนและโพลิโคซานอล ซึ่งเป็นสารเคมีที่ได้จากอ้อย หลังจาก 18 สัปดาห์ที่ 59 ผู้เข้าร่วมการรักษาที่มีข้าวยีสต์แดงพบว่าการดื้อต่ออินซูลินลดลง รวมถึงคอเลสเตอรอลตัวร้ายลดลง นอกจากนี้ ระดับน้ำตาลในเลือดยังลดลงหลังอาหาร เมื่อเทียบกับยาหลอก แต่การศึกษานี้ดำเนินการในระยะเวลาอันสั้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อหาผลกระทบที่ยั่งยืน
การอักเสบ
ใน 2017 ศึกษา, 50 ผู้ป่วยโรคเมตาบอลิซึมได้รับทั้งข้าวยีสต์แดงและสารสกัดจากมะกอก หรือยาหลอกเป็นเวลาแปดสัปดาห์ ในตอนท้ายของการทดลอง ผู้เข้าร่วมที่เสริมด้วยสารสกัดจากมะกอกข้าวยีสต์แดงมีระดับไบโอมาร์คเกอร์ลดลงสำหรับความเครียดออกซิเดชันซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการอักเสบเรื้อรัง อีกครั้ง จำเป็นต้องมีการศึกษาในวงกว้างในระยะเวลานานเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่สรุปได้
มะเร็งต่อมลูกหมาก
การศึกษาในหลอดทดลองเปรียบเทียบคุณสมบัติต้านมะเร็งของข้าวยีสต์แดงกับยาลดคอเลสเตอรอล โลวาสแตติน การศึกษาได้ศึกษาผลกระทบที่สารทั้งสองมีต่อการเติบโตของเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมากโดยเฉพาะ และพบว่าข้าวยีสต์แดงสามารถลดการเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ดีกว่าโลวาสแตติน อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมก่อนที่เราจะสามารถสรุปผลการรักษามะเร็งหรือมาตรการป้องกันได้
ใครรับได้บ้าง?
ข้าวยีสต์แดงควรจะปลอดภัยสำหรับผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ที่มีสุขภาพดี แต่มีข้อยกเว้นบางประการ ไม่แนะนำสำหรับผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร นอกจากนี้ ผู้ที่เป็นโรคตับหรือไต หรือผู้ที่รับประทานยากลุ่ม statin หรือยาลดคอเลสเตอรอล ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเป็นอาหารเสริม ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ท้องอืด ท้องเฟ้อ และปวดท้อง ในขณะที่ปฏิกิริยารุนแรงขึ้นอาจส่งผลให้ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อและอ่อนแรง เป็นพิษต่อตับ หรืออาการแพ้ คุณควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานข้าวยีสต์แดง และปฏิบัติตามปริมาณที่ระบุไว้บนซองเสมอ
